Monday, 23 December 2024

สร้างคนติดตามเยอะๆ ไม่ได้อยู่ที่ฝีมือการเขียน

09 Jun 2024
99

ความสำเร็จในการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดใจ ไม่ได้อยู่ที่ฝีมือการเขียนเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การเขียนเนื้อหาอย่างต่อเนื่องและจำนวนมาก

ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้น การแข่งขันเพื่อชิงความสนใจจากผู้ชมด้วยเนื้อหาดีๆ แค่ไม่กี่ชิ้นอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แบรนด์ที่ต้องการโดดเด่นจำเป็นต้องสร้างเนื้อหาคุณภาพในจำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ชมจดจำและกลับมาหาเราเรื่อยๆ

การเขียนเนื้อหาเป็นปริมาณมากสามารถช่วยให้แบรนด์ครองพื้นที่ความสนใจได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มการเข้าถึงในวงกว้าง สร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ และกระตุ้นการมีส่วนร่วม แน่นอนว่าเนื้อหาจำนวนมากเพียงอย่างเดียวไม่ได้การันตีความสำเร็จ แต่หากเราสามารถรักษาคุณภาพของเนื้อหาไว้ควบคู่ไปด้วย ความต่อเนื่องก็จะเป็นกุญแจสำคัญที่ผลักดันแบรนด์ไปสู่จุดสูงสุดได้

การปรับวิธีคิดจากเน้นคุณภาพอย่างเดียว มาสู่การสร้างสมดุลย์ระหว่างคุณภาพและปริมาณของเนื้อหา เป็นสิ่งจำเป็นที่แบรนด์ต้องทำ เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีการตลาดยุคใหม่ได้อย่างทัดเทียม การทำทั้งเนื้อหาดีและเนื้อหาเยอะ ต้องอาศัยการวางแผนและการทุ่มทรัพยากรที่เหมาะสม แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ามากกว่าเดิมแน่นอน

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางแบรนด์ถึงครองหน้าฟีดและหน้าค้นหาได้เกือบทุกหัวข้อ ทั้งที่คุณภาพก็ไม่ได้ขั้นเทพ แต่กลับดูดซับความสนใจไปได้อย่างมหาศาล

ผมเองก็เคยมีความเชื่อว่าการเขียนคอนเทนต์ที่ปังต้องมาจากคุณภาพเป็นหลัก ถึงจะมีน้อยชิ้นแต่ต้องจัดเต็ม ทว่าพอได้อ่านแนวคิดของ Brian Clark ผู้เชี่ยวชาญการตลาดเนื้อหา ผมก็ได้เปิดมุมมองใหม่ว่า บางครั้งเนื้อหาที่มีปริมาณมากก็สำคัญไม่แพ้กัน แม้อาจจะไม่ได้เจ๋งสุดๆ แต่ความต่อเนื่องก็ช่วยให้ผู้อ่านจดจำและกลับมาหาแบรนด์เราได้บ่อยขึ้น นั่นคือกุญแจของการครองใจผู้ชมในยุคข้อมูลท่วมท้นแบบนี้ ตอนนี้ผมจึงปรับกลยุทธ์ใหม่ ผสมผสานทั้งคุณภาพและปริมาณในการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งก็เห็นผลชัดเจนว่าการเข้าถึงและความนิยมของแบรนด์ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยล่ะครับ

ลองสำรวจดูว่า แบรนด์ที่คุณติดตามอยู่เป็นประจำนั้น นอกจากจะสร้างเนื้อหาดีๆ แล้ว ยังมีความถี่ในการนำเสนอมากแค่ไหน ความสม่ำเสมอของเนื้อหาส่งผลต่อการจดจำและความผูกพันของคุณกับแบรนด์เหล่านั้นอย่างไรบ้าง

ในโลกที่ข้อมูลมีล้นเหลือ แบรนด์ที่อยากอยู่ในใจผู้ชม ไม่ได้แข่งกันด้วยคุณภาพอย่างเดียว แต่ต้องแข่งด้วยปริมาณด้วย

“แม้เนื้อหาคุณภาพสูงจะสำคัญ แต่ถ้ามีเนื้อหาคุณภาพดีจำนวนมากออกมาสม่ำเสมอ นั่นจะเป็นตัวช่วยผลักดันธุรกิจได้อย่างรวดเร็วกว่า” – Brian Clark

“ถ้าคุณหวังจะใช้คอนเทนต์เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ คุณต้องเผยแพร่เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้น ผู้ชมก็จะลืมคุณไปเสียก่อน” – Brian Clark

“ทั้งปริมาณและคุณภาพเป็นสิ่งที่ต้องควบคู่กันไป การมุ่งสร้างแค่เนื้อหาชั้นเลิศ โดยไม่คิดถึงความถี่ในการนำเสนอ ก็เหมือนกับมีรถสปอร์ตหรูคันเดียว แต่ขับแค่ปีละครั้ง” – Neil Patel ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์

ในการแข่งขันทางการตลาด การน็อคคู่ต่อสู้ไม่ได้อยู่ที่การชกหมัดเดียวหนักๆ แต่อยู่ที่การชกให้ถี่และต่อเนื่องมากกว่า

Brian Clark อธิบายว่าหากแบรนด์ต้องการใช้คอนเทนต์เป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จ นอกจากจะต้องเน้นคุณภาพของเนื้อหาแล้ว จำนวนและความถี่ในการนำเสนอก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากปล่อยให้ช่วงห่างระหว่างเนื้อหาแต่ละชิ้นนานเกินไป ผู้ชมก็อาจจะเผลอลืมแบรนด์เราไปเสียก่อน

ในขณะที่ Brian ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า แม้เนื้อหาที่ออกมาบ่อยๆ อาจจะไม่ได้เพอร์เฟกต์ทุกชิ้น แต่มันจะช่วยให้ผู้ชมจดจำแบรนด์เราได้ดีขึ้น มีโอกาสเจอเนื้อหาเราบ่อยขึ้น ไม่ว่าจะบนหน้าฟีดหรือหน้าค้นหา ยิ่งถ้าเนื้อหาส่วนใหญ่ยังมีคุณภาพที่ดีควบคู่ไปด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก

ซึ่ง Neil Patel ผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ก็เสริมว่า ปริมาณกับคุณภาพเป็นของคู่กันในโลกการตลาดยุคใหม่ เขาเปรียบเทียบการทำแต่เนื้อหาระดับไฮเอนด์ แต่ไม่สนความถี่ในการปล่อย เหมือนกับมีรถสปอร์ตสุดหรูแต่ขับแค่ปีละครั้ง ซึ่งนั่นคงไม่เพียงพอที่จะทำให้แบรนด์ติดตลาดได้อย่างเต็มที่แน่ๆ

จากการค้นเพิ่มเติม พบรายงานการตลาดเชิงเนื้อหาของ Semrush ปี 2022 ยืนยันความสำคัญของปริมาณ โดย 47% ของนักการตลาดเนื้อหาระบุว่าความสม่ำเสมอของคอนเทนต์เป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลที่สุด ขณะที่ 40% บอกว่าจำนวนของเนื้อหาเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ เริ่มตระหนักถึงพลังของการทำเนื้อหาคุณภาพอย่างต่อเนื่องมากขึ้น

สอดคล้องกับอีกรายงานของ Content Marketing Institute ปี 2021 ระบุว่ากลุ่มผู้ทำการตลาดเนื้อหาที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มีการเผยแพร่เนื้อหาบ่อยกว่าถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ทำได้ผลน้อย แสดงให้เห็นชัดว่าความถี่ในการปล่อยคอนเทนต์ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของแบรนด์ในการเข้าถึงผู้ชม

ลองคิดดูว่า ระดับความสม่ำเสมอในการสร้างคอนเทนต์ของแบรนด์คุณตอนนี้เป็นอย่างไร ถ้าอยากเพิ่มปริมาณเนื้อหาให้มากขึ้น โดยที่ไม่กระทบต่อคุณภาพจนเกินไป คุณคิดว่าควรจะเริ่มต้นจากการวางแผนอย่างไร จะจัดสรรทรัพยากรอย่างไรให้เกิดความสมดุล

 ย้อนกลับไปในปี 2006  Brian Clark เป็นเพียงนักเขียนอิสระที่พยายามหาเลี้ยงชีพด้วยการเขียน เขาเคยผ่านงานหลายประเภท ตั้งแต่เขียนบทความ เขียนโฆษณา ไปจนถึงเขียนอีเมล แต่รายได้ที่ได้มาแทบจะไม่พอใช้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเน้นแต่เขียนผลงานที่ดีที่สุด โดยไม่ได้สนใจปริมาณมากนัก

สิ่งที่ Brian อยากทำที่สุดคือการเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้อ่านด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง แต่การจะไปถึงจุดนั้น ดูเหมือนเขาจะต้องใช้ความพยายามและเวลามากเกินไป กว่าจะเขียนแต่ละชิ้นให้สมบูรณ์แบบได้ ก็ต้องเสียเวลาไปเป็นวันๆ จนงานที่ปล่อยออกมามีปริมาณน้อยเกินกว่าจะสร้างกระแสได้

Brian ตัดสินใจเปิดบล็อกส่วนตัวขึ้นมา ในนาม Copyblogger ด้วยความตั้งใจที่จะใช้เป็นพื้นที่ในการฝึกฝนทักษะการเขียนคอนเทนต์ให้เต็มที่ เขาท้าทายตัวเองด้วยการตั้งเป้าที่จะเขียนบทความใหม่เผยแพร่วันละ 1 ชิ้นให้ได้ แม้อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนที่เคยทำ แต่การได้เขียนเป็นประจำจะช่วยให้ฝีมือเขาพัฒนาไปได้เร็วขึ้น ซึ่งBrian พยายามรักษาคุณภาพของเนื้อหาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันก็พยายามเพิ่มความเร็วในการเขียนให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาค้นคว้าหาเทคนิคต่างๆ ในการสร้างคอนเทนต์ให้ได้ทั้งดีและไว ทดลองนำมาใช้ดูว่าอะไรได้ผลบ้าง เขาใช้เวลาหลายเดือนในการปรับจูนทั้งคุณภาพและปริมาณให้สมดุลกัน จนในที่สุดเขาสามารถเขียนบทความดีๆ ได้วันละ 2-3 ชิ้น โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยมากเหมือนแต่ก่อน

เขาพบว่า ความสม่ำเสมอในการเผยแพร่คอนเทนต์ของ Copyblogger เริ่มเรียกความสนใจจากผู้อ่านได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนมียอดผู้ติดตามเป็นหลักหมื่น การที่มีบทความใหม่ๆ ออกมาให้อ่านแทบทุกวัน ทำให้ผู้อ่านจดจำแบรนด์ของ Brian ได้ดีขึ้น และเกิดความคุ้นเคยในระดับหนึ่ง ซึ่งนั่นส่งผลให้บล็อกของเขาติดอันดับต้นๆ ในการค้นหาบ่อยมากขึ้น แต่การพยายามทำทั้งเนื้อหาเยอะและเนื้อหาดีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย Brian ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการค้นคว้าและเขียนคอนเทนต์จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน บางครั้งก็รู้สึกหมดไฟในการเขียนเพราะต้องบีบคั้นไอเดียออกมาแทบจะทุกวัน คุณภาพของงานบางชิ้นก็ไม่ได้ดีเท่าที่หวังไว้ นั่นทำให้เขาเริ่มสงสัยว่าควรจะเน้นแต่เขียนน้อยแต่เนื้อหาเจ๋งดีไหม กลัวว่าการโฟกัสแต่ปริมาณจะทำให้เนื้อหาธรรมดาลงไปเรื่อยๆ

Brian ตัดสินใจว่าจะลดจำนวนเนื้อหาลงสักหน่อย เหลือแค่วันละ 1 ชิ้น เพื่อให้สมดุลกับคุณภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกันเขาก็ยังคงต้องการรักษาความถี่ในการเผยแพร่เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ เขาใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาปรับแผนใหม่ โดยจัดสรรเวลาให้ลงตัว ทั้งการหาไอเดีย เขียนคอนเทนต์ และพักผ่อนเพื่อเติมพลังในการสร้างสรรค์

ทุกวันนี้ Copyblogger กลายเป็นหนึ่งในบล็อกด้านการตลาดเนื้อหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก Brian ขึ้นแท่นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในด้านนี้ แม้เขาอาจจะใช้เวลานานกว่าในการค้นหาจุดสมดุลที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือเขาได้เรียนรู้ว่าการรักษาคุณภาพของเนื้อหาไปพร้อมกับการทำเนื้อหาจำนวนมากอย่างต่อเนื่องนั้น ล้วนมีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ Copyblogger ก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้ในที่สุด

 บทเรียนสำคัญที่ Brian Clark ได้เรียนรู้ คือเส้นทางแห่งความสำเร็จ ไม่ได้ปูด้วยแต่เนื้อหาชั้นเลิศเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเสริมทัพด้วยความต่อเนื่องสม่ำเสมอด้วย

เรื่องราวการค้นหาสมดุลระหว่างคุณภาพและปริมาณของเนื้อหาจาก Brian ทำให้คุณได้ข้อคิดอะไรบ้าง ลองนึกถึงแบรนด์ของคุณดู หากอยากให้ผู้ชมจดจำและกลับมาหาเราเป็นประจำ คุณคิดว่าต้องปรับความถี่ในการปล่อยเนื้อหามากขึ้นแค่ไหน เทียบกับตอนนี้ และคุณมีแผนรับมืออย่างไร เพื่อให้คุณภาพไม่ตกลงไปมากเกินไป

ในโลกที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น การสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดใจแค่ไม่กี่ชิ้นคงไม่เพียงพอให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ได้อีกต่อไป เราต้องหันมาปรับตัว ด้วยการเพิ่มปริมาณเนื้อหาให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพให้ได้มาตรฐาน เรื่องราวความสำเร็จของ Brian Clark แห่ง Copyblogger คือเครื่องพิสูจน์ว่า การสร้างเนื้อหาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ สามารถสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นได้อย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าการทำทั้งเนื้อหาเยอะและเนื้อหาดีพร้อมกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกแบรนด์ แต่ถ้าเรามีการวางแผนที่ดี บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย และปรับปรุงอยู่เสมอ การทำสองสิ่งนี้ให้สมดุลก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถอีกต่อไป

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ให้ทุกคนกลับไปคิดทบทวนแผนกลยุทธ์ด้านเนื้อหาอีกครั้ง ในทุกครั้งที่เขียน ผมแนะนำว่า คุณต้องคิดถึงประโยชน์ของคนอ่านเป็นเรื่องแรกนะครับ